เหตุการณ์การประท้วงใหญ่ที่กรุงฮานอยในปี 2563 เป็นจุดหักเหสำคัญในการเมืองและสังคมเวียดนามสมัยใหม่ การประท้วงเกิดจากความไม่滿ใจต่อการบริหารจัดการของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการเช่าที่ดินซึ่งหลายคนมองว่าเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนใหญ่ในขณะที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ
ต้นเหตุของการประท้วงมีหลากหลายสาเหตุ ประเด็นหลัก revolve around การที่รัฐบาลอนุมัติให้บริษัทเอกชนเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และการเวนคืนที่ดินจากชาวบ้านโดยให้ค่าชดเชยต่ำกว่ามูลค่าจริง
ชาวบ้านจำนวนมากที่เคยอาศัยอยู่บนที่ดินเหล่านั้นถูกบังคับให้ย้ายออกไปโดยไม่มีที่อยู่อาศัยใหม่ หรือได้รับเงินชดเชยไม่เพียงพอที่จะสร้างชีวิตใหม่ การกระทำของรัฐบาลถือเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของประชาชน และทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างรัฐบาลกับประชาชน
เหตุการณ์ในกรุงฮานอยได้จุดประกายให้เกิดการประท้วงขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ ผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายเช่าที่ดิน, ตรวจสอบความโปร่งใสในการเวนคืนที่ดิน และให้ความเป็นธรรมแก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
ดร. ดวง อัง เป็นหนึ่งในนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนที่เข้าร่วมการประท้วงอย่างแข็งขัน beliauได้ใช้ความรู้และอิทธิพลของตนในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของชาวบ้าน และเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อการกระทำของตน
ดร. ดวง อัง มองว่า การประท้วงในปี 2563 เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมของประชาชนชาวเวียดนาม “เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า ประชาชนชาวเวียดนามไม่ยอมรับการละเมิดสิทธิ และเรียกร้องให้รัฐบาลปกครองด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส,” ดร. ดวง อัง กล่าว
ผลจากการประท้วงครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลเวียดนามต้องหันมาพิจารณานโยบายเช่าที่ดินอย่างจริงจัง และมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสในการเวนคืนที่ดิน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ และประชาชนจำนวนมากยังคงต้องการเห็นการปฏิรูปที่รัดกุมและจริงจัง
ประเด็นสำคัญจากการประท้วง | |
---|---|
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ | |
การละเมิดสิทธิของชาวบ้าน | |
การขาดความโปร่งใสในการบริหารจัดการ |
การประท้วงที่กรุงฮานอย เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ประชาชนมีพลังในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในสังคม