ประวัติศาสตร์ของโคลอมเบียถูกทอด้วยด้ายแห่งความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ตั้งแต่สมัยอาณานิคมสเปนมาจนถึงยุคสมัยใหม่ การต่อสู้เพื่อสิทธิความเป็นธรรมและเสรีภาพได้เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ หนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดซึ่งสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม และความต้องการของประชาชนคือ “การลุกฮือของชาวไร่พันธุ์พืช” (Cimarrón) ในปี 1928
การลุกฮือนี้มีรากเหง้ามาจากเงื่อนไขที่เลวร้ายสำหรับชาวไร่ในเขตปลูกกาแฟซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของโคลอมเบียในเวลานั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ agrarian โคลอมเบีย เช่น José Antonio Vargas, อธิบายว่าชาวไร่ส่วนใหญ่ถูกบังคับให้ทำงานด้วยค่าแรงที่ต่ำอย่างน่าตกใจและต้องเผชิญกับเงื่อนไขการทำงานที่อันตราย
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 การปลูกกาแฟเฟื่องฟู และโคลอมเบียกลายเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ของโลก อย่างไรก็ตาม ความร่ำรวยจากกาแฟไม่ได้กระจายไปยังชาวไร่ที่ทำงานหนัก
นายทุนและเจ้าของไร่ได้กอบโกยผลกำไรทั้งหมด ในขณะที่ชาวไร่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด นอกจากค่าแรงต่ำแล้ว ชาวไร่ยังต้องเผชิญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการทำงานที่ยาวนาน การพักผ่อนน้อย และการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม
ในบรรดาผู้ก่อการลุกฮือนี้ ผู้มีบทบาทสำคัญคือ Pedro Nel Ospina, อดีตประธานาธิบดีของโคลอมเบีย (1922-1926) Ospina เป็นนักการเมืองที่มีความคิดริเริ่มและเป็นที่รู้จักในเรื่องนโยบายการปฏิรูปของเขา Ospina เห็นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงสภาพของชาวไร่ และสนับสนุนให้มีการดำเนินการเพื่อให้พวกเขามีสิทธิและความเป็นธรรม
Pedro Nel Ospina ไม่ได้ร่วมการลุกฮือโดยตรง แต่การปฏิรูปที่เขาผลักดันระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เช่น การจำกัดชั่วโมงการทำงาน และการส่งเสริมการจัดตั้งสหภาพแรงงาน ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวไร่ในการต่อสู้
เมื่อชาวไร่เริ่มรวมตัวกันและเรียกร้องสิทธิของตนอย่างจริงจัง อดีตประธานาธิบดี Ospina ก็ได้ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง และการเปลี่ยนแปลง
เหตุการณ์สำคัญของ การลุกฮือของชาวไร่พันธุ์พืช:
วันที่ | เหตุการณ์ |
---|---|
ต้นเดือนเมษายน 1928 | ชาวไร่ในจังหวัดTolima เริ่มประท้วง |
10 เมษายน 1928 | การลุกฮือขยายไปยังจังหวัดHuila และCauca |
24 เมษายน 1928 | รัฐบาลโคลอมเบียส่งกองทัพมาปราบปราม |
การลุกฮือของชาวไร่พันธุ์พืชเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าและเลือดAddTo Cart ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของชาวไร่จำนวนมาก ในที่สุด กองทัพก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่การลุกฮือนี้ยังคงเป็นตัวอย่างสำคัญของความอดทนและความต้องการของประชาชน
หลังจากการลุกฮือ ชาวไร่ได้รับการรับรู้เพิ่มขึ้น และรัฐบาลโคลอมเบียเริ่มดำเนินการเพื่อปรับปรุงสภาพชีวิตของพวกเขา การลุกฮือนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการต่อสู้เพื่อสิทธิและความยุติธรรมทางสังคม
แม้ว่าการลุกฮือของชาวไร่พันธุ์พืชจะจบลงด้วยความรุนแรง แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโคลอมเบียอย่างถาวร และนำไปสู่การเกิดขึ้นของการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงานในภายหลัง